ตั้งชื่อเรื่องซ่ะ.....ฮ้าๆ
ช่วงนี้ก็มีข่าวไม่ค่อยน่าประทับใจนักสำหรับการบริหารพลังงานไฟฟ้าของประเทศ แต่จะว่าไปก็โทษใครไม่ได้เพราะทุกคนล้วนมีส่วนในปัญหาความไม่มั่นคงของพลังงานไฟฟ้าในครั้งนี้ ถ้าจะให้ฟังดูดีคงต้องยืมคำของผู้บริหารบริษัทผลิตโทรศัพท์รุ่นเก๋าๆ " ใคร...เผาบ้านเรา? " อ่านข้อความแล้วคงเข้าใจน่ะครับว่าคนที่มีส่วนในปัญหานี้ก็คือพวกเราทุกคนที่ใช้ไฟฟ้าในชีวิตประจำวันนี่แหละครับ
จากกราฟท่านจะเห็นว่าประเทศไทยพึ่งพาก๊าซธรรมชาติถึง 70 % ซึ่งส่วนใหญ่ก็ใช้ในการผลิตพลังงานไฟฟ้าโดยอัตราการใช้พลังงานไฟฟ้าของไทยเพิ่มขึ้นประมาณ 2.4% (2554) และยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
แล้วทำไมไทยต้องพึ่งพาก๊าซมากขนาดนั้น?
คำตอบที่ง่ายที่สุดก็คือ "ต้นทุน" การผลิตพลังงานไฟฟ้าเป็นธุรกิจ และทุกธุรกิจต้องการกำไรรวมถึงธุรกิจที่เป็นของรัฐบาลด้วย(รัฐวิสาหกิจ)
แล้วพลังสะอาดอย่าง น้ำ แสงอาทิตย์ และลมหล่ะ ?
โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทยปัจจุบันผลิตได้เฉพาะตอนมีแสงแดดครับ(ค่าลงทุนในการสร้างระบบจัดเก็บมันสูงมากๆไม่คุ้มที่จะลงทุน) และปัจจุบันยังผลิตได้น้อยครับ
- โรงไฟฟ้าพลังงานลมในไทยไม่ต้องพูดถึงครับ ลมเบาไปก็ไม่ได้ แรงไปก็ไม่ดีครับประเทศไทยเลยไม่มี Wind Farm ที่มีประสิทธิผลและเสถียรภาพที่จะเป็นฐานให้ระบบได้ครับ
- โรงไฟฟ้าพลังน้ำอันนี้สามารถเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเป็นฐานให้ระบบได้ครับ ถ้า มีน้ำมากพอและเมื่อเดินเครื่องติดต่อกันแล้วไม่มีปัญหาน้ำท่วม (ซึ่งในปัจจุบันยังทำไม่ได้ครับเพราะน้ำจะท่วมและบางเขื่อนน้ำไม่เพียงพอต่อภาคเกษตรกรรม โรงไฟฟ้าพลังน้ำจึงมีหน้าที่แค่ตัดพีคของระบบ)
แล้วเดือนเมษานี้เราจะทำยังไงดีหล่ะ ?
- ประหยัดไฟฟ้าครับ เราเป็นแค่ประชาชนคนตาดำๆ ไม่มีมูลค่าต่อระบบเศรษฐกิจมากเท่าโรงงานอุตสาหกรรม เราต้องเสียสละ(ตลอด) อันนี้ต้องทำใจ(แบบเซ็งๆ) ครับ
น่าขำเหมือนกันค่ะ แต่เราโชคดีหน่อยเพราะเราขายอุปกรณ์ทางด้าน Emer เลยขายดีค่ะคราวนี้
ตอบลบยินดีด้วยครับฮ้าๆ
ลบ